เรามาวางแผนจัดงานแต่งงาน...ตามงบประมาณกันดีกว่า
จะแต่งงานทั้งที่ งานนี้ต้องจัดเต็ม! แต่ยุคเศรษฐกิจแบบนี้ ยังไง๊ ยังไง ก็ต้องคิดให้ถี่ถ้วนกันหน่อย ว่างานแต่งงานในฝันที่เราต้องการนั้นควรจะเป็นแบบไหนและอย่างไรดี? เรามาเลือก “สถานที่แต่งงาน” และ “รูปแบบงาน” ที่เราต้องการตามงบประมาณที่มีกันเถอะคะ
Step 1.......เลือก สถานที่จัดแต่งงาน
การตัดสินใจเลือกสถานที่จัดงานแต่งงาน เมื่อเราได้จำนวนแขก ที่เชิญมาร่วมงานเป็นเรียบร้อยแล้ว เราก็นำมาเปรียบเทียบกับ “งบประมาณ” ที่มีอยู่ว่าจะเลือกสถานที่แบบไหนและยังไงดี
1) กลุ่มแรก : งบประมาณน้อย / แขกน้อย
สำหรับกลุ่มนี้ขอแนะนำสถานแต่งงานที่ยอดฮิต เช่น “โรงพยาบาลสงฆ์” หรือสถานที่แต่งงานที่เป็น “ร้านอาหาร” เนื่องจากสถานที่เหล่านี้จะช่วยให้เราไม่สิ้นเปลืองงบประมาณมากนัก แต่ถ้าบอกว่างบน้อยจริงๆถึงขั้นน้อยมากเลย การจัดเลี้ยงกันเองที่บ้านของฝ่ายเจ้าบ่าวหรือเจ้าสาว ก็ดูอบอุ่น บรรยากาศเป็นกันเองก็ไม่เลวนะคะ
หรือถ้าเราบริหารจัดการดีๆ ก็อาจจะมองหาสถานที่อื่นๆ ขึ้นมาอีกหน่อย เช่น สโมสรต่างๆ , เรือนไทย , หอประชุมโรงเรียน สมาคม ห้องประชุมของหน่วยงานราชการ(บางแห่ง) ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจทีเดียวคะ
เหตุผลที่แนะนำสถานที่อื่นๆ ให้ทางเลือกหลายที่ก็เพราะว่า “งานแต่งงานไม่ใช่เรื่องของคนสองคน” ดังนั้น หากคุณมองว่าการยกระดับของสถานที่จัดงานแต่งงานถือเป็นการ “ให้เกียรติ” ทั้งคู่ของเราและแขกที่มาร่วมงาน ด้วยคะ
2) กลุ่มที่สอง : งบประมาณน้อย / แขกเยอะ
สำหรับกลุ่มนี้ ขอแนะนำทางเลือกสองทางให้คุณเลือก ระหว่างการ “ลดจำนวนแขกลง” หรือ “เพิ่มงบประมาณ” เพราะถ้าหากคุณมีงบประมาณที่ไม่พอแล้ว สิ่งที่ควรทำคือ เลือก 1 วิธี จากที่แนะนำไว้ข้างต้นเท่านั้น!!
สำหรับคนไหนที่ยังมีงบประมาณไม่เพียงพอ ที่จะจัดแต่งงานครั้งนี้ และคิดที่จะ “กู้เงิน” มาเพื่อจัดงานแต่งงาน ควรเลิกคิดเด็ดขาด!!! เพราะการกู้เงินมาจัดงานนั้น อาจจะสร้างปัญหาให้กับชีวิตในอนาคตของคุณ ที่ต้องเอาอนาคตของคนทั้งคู่มาแบกรับภาระทางการเงิน โดยทีไม่รู้ว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น และมีเหตุการณ์อะไรบ้างที่จะทำให้ฐานะทางการเงินของคุณเปลี่ยนแปลงไปก็เป็นได้
“แหม๋.. จะเอาอะไรมาก เดี๋ยววันแต่งก็ได้เงินคืนมาแล้ว ค่อยเอามาจ่ายก็ได้นี่นา” มีเพื่อนคนหนึ่งเคยบอกไว้ #ขอแชร์เรื่องเล่าจากประสบการณ์ตรงงานแต่งงานของเพื่อน แต่ปรากฎว่าในชีวิตจริงวันงานแต่งงานของเพื่อน ดันเกิดข้อผิดพลาดขึ้น เพราะแต่งงานถือเป็นวันฤกษ์ดีสุดๆ แต่ฟ้าฝนดันไม่เป็นใจ ฝนตก รถติด แขกที่มางานก็ไปงานอื่นด้วย แขกที่มาร่วมงานแต่งน้อยกว่าที่คาดไว้ประมาณ 40% นี่แหละเรื่องจริงที่ต้องเจอ! เพื่อนคนนี้และคู่รักต้องแบกรับภาระหนี้สินไปอีก 3 ปีกว่าๆ กว่าจะสะสางหนี้หมด เฮ้ออออ TwT
3) กลุ่มที่สาม : จะแขกน้อยหรือเยอะ แต่งบประมาณชั้นเยอะ (ย่ะ)
สำหรับกลุ่มนี้ เชื่อว่าคุณมีทางเลือกเยอะแยะมากๆคะ ดังนั้นแนะนำสั้นๆว่า อยากเนรมิตงานแต่งงานแบบไหน “ตามสบาย” งบเยอะๆ ไม่มีเงื่อนไขใดๆทั้งสิ้น แต่ควรระวังอย่าให้เกินงบประมาณที่ตั้งไว้ละกันคะ
โดยปกติกลุ่มนี้นั้น มักจะเลือกจัดงานในสถานที่ที่มีคุณค่าและราคา จัดงานหากเป็นร้านอาหารก็คงเป็นร้านที่ดูดีมีระดับ, สโมสรขนาดใหญ่ หรือ โรงแรมหรูๆ หลายดาว
หากจะถามว่าทำไมเค้าถึงเลือกที่จะจัดแบบนี้ล่ะ ก็เพราะว่าเค้ามีงบประมาณเยอะ อยากจัดแบบไหนได้หมด ตามต้องการ ข้อดีของการมีงบประมาณเยอะ การตัดสินใจเลือกสถานที่จัดงานก็ง่าย
เอาล่ะ…เมื่อหมดเรื่องแรกไปแล้ว คราวนี้เรามาว่ากันต่อในเรื่องที่สอง “รูปแบบงาน” กันต่อเลยดีกว่าคะ
Step 2.....รูปแบบงานแต่ง
สำหรับรูปแบบงานนั้น โดยปกติจะจัดกันอยู่ 3 แบบ ได้แก่ โต๊ะจีน, บุฟเฟ่ต์ และ คอกเทล
โต๊ะจีน : กรณีของโต๊ะจีนนี้จะเหมาะมากๆกับงานที่มีแขกผู้ใหญ่เยอะ เพราะมีที่นั่ง พร้อมพนักงานบริการเสิร์ฟอาหาร ทำให้งานเป็นระเบียบ ไม่วุ่นวาย ดูเป็นทางการ
ในส่วนนี้สิ่งที่เหนื่อยหน่อย เห็นทีจะเป็นการ “จัดแขกลงโต๊ะ” ให้ถูกกลุ่ม ถูกใจทุกท่าน ควรจะเขียนป้ายตั้งโต๊ะให้ชัดเจน เพื่อง่ายๆ ต่อการจัดแขกนั่งแต่ละโต๊ะ
บุฟเฟต์ : กรณีนี้จะคล้ายๆกับงานแบบโต๊ะจีน คือ มีโต๊ะให้นั่งเหมือนกัน แต่มีขั้นตอนเพิ่มขึ้นมาอีกหน่อย ให้แขกได้ออกกำลังกายโดยลุกขึ้นไปตักอาหารด้วยตัวเอง ความเป็นระเบียบอาจจะน้อยลง งานอาจจะดูเป็นกันเองขึ้นมาหน่อย แต่การจัดแขกลงโต๊ะก็คงไม่ต่างกับโต๊ะจีนครับ
คอกเทล : อันนี้จะเน้นแขก “ยืน” เป็นหลักมากกว่าแขก “นั่ง” คนในงานสามารถพูดคุยกันได้อิสระครับ และดูงานเป็นกันเองมากกว่าแบบอื่นๆ สบายตรงที่ไม่ต้องจัดแขก แต่แขกบางท่านอาจจะไม่ชอบเพราะต้องยืนนานๆ มันจะยิ่งเมื่อย
ขอเน้นว่าสิ่งที่ผมอยากจะให้วิเคราะห์ในการจัดงาน คือ ทางบ่าวสาวควรจะลองพูดคุยความเห็นจากคนรอบตัวดูก่อน ว่ามีความต้องการอย่างไร เพราะแต่ละแบบก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป บางคนชอบแบบไหน อันนี้ห้ามกันยากครับ ต่างจิตต่างใจ แต่ยังไงเอาให้ลงตัวดีกว่า
– สรุป –
ไม่ว่าคุณจะเลือกสถานที่แต่งงานที่ไหน? จัดงานแบบไหน? ก็ลองเทียบกับงบประมาณที่นี่อยู่ วางแผนการแต่งงานให้ลงตัว ปรึกษาหารือกัน หรือจะคุยกับพี่ๆ เพื่อนๆ ที่เคยจัดงานแต่งงานมาก่อนแล้ว อย่างน้อยก็ทำให้เราได้ข้อมูลเล็กๆน้อยๆ ก่อนตัดสินใจเลือก!!!
ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : เว็บบล็อกภาษีข้างถนน
|