นิกโก้เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของโตเกียว ท่ามกลางหุบและทิวเขาสวยงาม อยู่ในเขตจังหวัดโทจิงิ ห่างออกไปราวๆ 140 กม. เท่านั้น สำหรับการเดินทางด้วยรถไฟในญี่ปุ่นระยะขนาดนี้ถือว่าไม่ไกลครับ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงเอง
นิกโก้เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์สำคัญของประเทศญี่ปุ่น เพราะเป็นพื้นที่ของตระกูลโทกุกาว่า โดยเฉพาะโชกุนอิเอยะสุ โทกุกาว่า เป็นผู้สถาปนา บากุฟุ (ค่ายทหาร) ที่เมืองเอโดะ หรือโตเกียวในปัจจุบันนั่นเอง ซึ่งทำให้เมืองเอโดะเป็นศูนย์กลางอำนาจหรือเมืองหลวงตั้งแต่นั้นมา
นิกโก้เป็นเมืองมรดกโลกที่มีชื่อเสียงมากของญี่ปุ่น ผู้คนหลั่งไหลมาจากทุกสารทิศทั้งชาวญี่ปุ่นเองและนักท่องเที่ยว โดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ได้ขึ้นทะเบียนศาลเจ้าโทโชกุ วัดรินโนจิ และศาลเจ้าฟูตาราซัน เป็นมรดกโลกแล้ว สำหรับศาลเจ้าโทโชกุนั้นเป็นวัดทางศาสนาเซน ที่ตั้งของสุสานของโชกุนโทคุงาวะ อิเอยะสุ ผู้หญิงใหญ่ กับโทคุงาวะ อิเอมิทสึ ผู้เป็นหลาน
การเดินทางไปเมืองนิกโก้จากโตเกียว
ผมอาศัยบัตรเบ่ง JR Pass ขึ้นรถไฟชินคันเซนสายโทโฮกุ (Tohoku Line) จากสถานีอุเอะโนะ (Ueno) ไปลงที่สถานีอุทซึโนะมิยะ (Utsunomiya) จำได้ว่าวันนั้นอากาศดีมาก กำลังชื่นชมบรรยากาศยามเช้า แสงแดดที่ทอแสงอุ่นๆท่ามกลางหมอกจางๆของฤดูใบไม้เปลี่ยนสี แต่ชินคันเซ็นวิ่งเร็วปานสายฟ้า 40 นาที ผมก็ต้องลงเสียแล้วเพื่อไปต่อรถไฟสาย JR Nikko Line ซึ่งเป็นรถไฟแบบ Local ไปยังสถานีปลายทางคือ JR Nikko ช่วงนี้ใช้เวลาเดินทางอีก 40 นาทีครับ
หมายเหตุ การเดินทางไปนิกโก้มีอีกหลายเส้นทางนะครับ โอกาสหน้าจะหาข้อมูลมาเพิ่มเติมให้ครับ
สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองนิกโก้
การท่องเที่ยวที่นิกโก้ถ้าเราวางแผนดีๆ เราจะใช้เวลาเพียงวันเดียวเท่านั้น ก็สามารถเที่ยวชมสถานที่สำคัญได้เกือบทั้งหมด แต่ถ้าอยากได้บรรกาศเต็มที่ weddinginlove.com ขอแนะนำให้หาที่พักที่นั้นและใช้เวลาสองวันกับคนที่คุณรักอยู่ที่นิกโก้ คุ้มจริงๆครับ
สถานที่สำคัญในนิกโก้ ได้แก่
1. ศาลเจ้าโทโชกุ
2. วัดรินโนจิ
3. ศาลเจ้าฟูตาราซัน
4. วัดอิเอะมิตสุ ไทยูอิน
5.สะพานชินเกียว
สถานที่ที่ว่ามานี้อยู่ใกล้ๆกันครับ เดินกระหนุงกระหนิงกันไป อากาศเย็นๆ อือม์..........
นอกจากนี้ยังมีที่น่าเที่ยวแบบว่าขาดไม่ได้ ได้แก่
1. ทะเลสาปซูเซ็นจิ
2. น้ำตกเคง่อน
3. วัดซูเซ็นจิ
4. บ่อน้ำพุร้อนซูเซ็นจิ
5. ยูโมะโตะออนเซ็น
สถานที่พวกนี้ค่อนข้างไกล และขึ้นไปบนภูเขา ในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ภูเขาเหล่านี้เหมือนถูกแต่งแต้มด้วยพู่กันหลากสีสันเลยที่เดียว (ไม่ได้เวอร์..อิอิ) ถ้าใครที่จัดทริปวันเดียว ผมแนะนำว่าให้ไปแค่น้ำตกเคง่อน และเที่ยวชมทะเลสาบใกล้ๆน้ำตก จากนั้นย้อนกลับลงมาที่มรดกโลกจะดีกว่าครับ
แล้วคุณจะรู้ว่าความรักของคุณโรแมนติกขนาดไหน เมื่อคุณได้ไปฮันนีมูนกับหวานใจที่นิกโก้ในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี...
NIKKO is NIPPON ประมาณว่าไม่ไปนิกโก้ ไม่ถึงญี่ปุ่น..ขนาดนั้นเลย
Momiji ใบไม่เปลี่ยนสี ที่นิกโก้ woow totemo kirei desu ne!!
ใบเมเปิ้ลบางต้นก็เปลี่ยนเป็นสีแดง บางต้นเปลี่ยนเป็นก็สีเหลือง
นิกโก้ ดินแดนสวรรค์กลางหุบเขา
อาจเป็นเพราะเราคู่กันคู่กันมาแต่ชาติไหน
จะรัก รักเธอตลอดไป
เป็นลมหายใจ ของกันและกัน
ป่าเปลี่ยนสี ที่นิกโก้
เมืองนิกโก้ เมืองกลางหุบเขา ที่แสนสงบ