เติมรักให้เต็มร้อย

เติมรักให้เต็มร้อย (Health Plus) 

          ผลสำรวจเมื่อเร็ว ๆ นี้เผยให้เห็นว่า ผู้อ่าน Health Plus จำนวนมากมีเซ็กส์ที่เป็นสุข แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังอยากเห็นหวานใจของตัวเองทำอะไรที่โรแมนติกให้พวกเธอ แต่ถ้ามัวรอให้เขาเป็นฝ่ายเริ่มต้นคงจะยากเห็นทีคุณเองนั่นแหละที่ต้องเป็นฝ่ายลงมือก่อน

          ผู้ชายที่เคยจีบหญิงโดยการให้ดอกไม้และของหวาน เช่น ช็อกโกแลต ตอนนี้คงกำลังมองหาอะไรแปลกใหม่มาเซอร์ไพรส์ พวกเธอแทนของเชย ๆ เหล่านี้

          ขณะเดียวกัน ความรักของเราจะยืดยาวไม่ได้ขึ้นกับกุหลาบแดงเพียงอย่างเดียว แต่ขึ้นกับความใกล้ชิดและเอาอกเอาใจซึ่งกันและกันไม่ใช่แค่ในวันเกิดหรือวันครบรอบแต่งงาน

          ในการสำรวจเรื่องเซ็กส์ของนิตยสาร Health Plus เมื่อเร็ว ๆ นี้พบว่า 95% ของคุณผู้อ่านยังคงรักสามีที่อยู่กันมายาวนาน 68% ของผู้อ่านมองสามีของตนเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด มีเพียง 35% ที่บอกว่าสามีของตนโรแมนติก นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ผู้อ่านปรารถนาความโรแมนติกจากสามีเป็นอย่างยิ่ง

          แต่ละคนมองความโรแมนติกแตกต่างกัน บางคนมองว่าโรแมนติกคือการไปดินเนอร์ใต้แสงเทียนในโรงแรมหรู ๆ บางคนมองว่าคือการนอนโอบกอดกันดูดาว "แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ประเด็นสำคัญอยู่ที่การแสดงออกถึงความรัก" พอลล่าฮอลล์ ผู้ให้คำปรึกษาด้านความสัมพันธ์กล่าว แค่โทรศัพท์พูดสั้น ๆ ว่าผมคิดถึงคุณจัง เพียงเท่านี้ก็ทำให้คุณได้รับความรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนพิเศษและเป็นที่รักใคร่ นี่เป็นช่วงเวลาที่ทำให้คุณอิ่มใจและเปี่ยมด้วยความสุข

          ความโรแมนติกเป็นอะไรที่ล้ำลึกกว่าที่คิด "มันช่วยกระชับสัมพันธ์รักระหว่างชายและหญิงให้แนบแน่น ให้ความรู้สึกว่าพวกเขาเป็นคู่กัน" จูเลีย โคล ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ของ Health Plus บอก "ความรักสำคัญกว่าเรื่องเซ็กส์ ความโรแมนติกเปรียบได้กับน้ำมันหล่อลื่นเครื่องจักรแห่งความสัมพันธ์ ทำให้มันเดินเครื่องได้ไม่สะดุด"

                   เบื้องหลังฮันนีมูน

          เราได้ยินคำว่า "ช่วงฮันนีมูน" ซึ่ง "ถ้าโชคดี" ช่วงเวลานี้ก็จะอยู่กับคุณได้ยาวนาน 2-3 ปี เบน เรนชอว์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ The Happiness Project บอก ช่วงของความสัมพันธ์ถัดจากนี้ไปเรียกว่า "ช่วงแห่งความผิดหวัง" เนื่องจากสิ่งต่างๆ ไม่เป็นอย่างที่คาดหวัง คนรักของคุณไม่ดีอย่างที่คิด

          หลังจากนี้ "ช่วงแห่งความระทมทุกข์" จะเข้ามาแทนที่          เราได้ยินคำว่า ซึ่ง ช่วงเวลานี้ก็จะอยู่กับคุณได้ยาวนาน 2-3 ปี เบน เรนชอว์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ The Happiness Project บอก ช่วงของความสัมพันธ์ถัดจากนี้ไปเรียกว่า "ช่วงแห่งความผิดหวัง" เนื่องจากสิ่งต่างๆ ไม่เป็นอย่างที่คาดหวัง คนรักของคุณไม่ดีอย่างที่คิด           หลังจากนี้ จะเข้ามาแทนที่ "สิ่งที่เกิดขึ้น คือว่าคุณสองคนหมางเมินกัน เริ่มตอกกันด้วยคำพูดแรง ๆ ต่างฝ่ายต่างโทษกันไปมาถึงชีวิตที่ไร้ความสุข แล้วคิดเลยเถิดไปถึงขั้นว่าชีวิตจะดีขึ้น ถ้าอีกฝ่ายจากไป"

          คุณสามารถพาตัวเองเข้าสู่ช่วงที่ 4 ที่เรียกว่า "ช่วงแห่งการฟื้นฟู" ได้ โดยการหันหน้ามาคุยกัน ต่างฝ่ายต่างเผยความรู้สึกของตนให้กันและกันได้รับรู้ "นี่เป็นช่วงของการให้ความเคารพซึ่งกันและกัน" เบนบอก "คุณสองคนเริ่มหันมามองถึงเหตุผลที่ตัดสินใจใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน นึกถึงความต้องการที่แท้จริงของตน ขณะเดียวกันก็เริ่มวางแผนการที่ควรทำในอนาคตสำหรับคุณสองคน" 

          ปฏิบัติการสร้างความโรแมนติก

                    วิธีต่อไปนี้จะช่วยเดิมความหวานให้ชีวิตรักคุณอย่างได้ผล แถมทำได้ง่ายมากจนคุณต้องทึ่ง...

            ออกเดท : จดนัดออกเดทของคุณลงในไดอารี่ เริ่มจากสิ่งที่คุณกับคนรักทำร่วมกันเป็นครั้งแรก เบนบอก "ไปดูหนัง นั่งซบไหล่กันกินป็อบคอร์น" หรือไปเรียนเต้นรำ ดูนิทรรศการภาพเขียน อะไรก็ได้ที่คุณสองคนชอบ 

           สำรวจความชอบ : "คุณย่อมรู้ดีว่าหลายปีที่ผ่านไป คุณเองเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยแค่ไหน คนรักของคุณก็เช่นเดียวกัน" เดนิสโนลส์ ที่ปรึกษาด้านความสัมพันธ์กล่าว "การสำรวจตรวจสอบเป็นสิ่งที่ควรทำ เช่น ดูสิว่าสีฟ้ายังเป็นสีโปรดของเขาอยู่หรือเปล่า หรือเขายังชอบเครื่องร่อนอยู่หรือเปล่า ดูสิว่าเขาอยากทำอะไรต่อไป ให้ถามคำถามประเภทที่คุณเคยถามเขาตอนที่คบกันใหม่ๆ" 

            แจกแจงรายการ : แจกแจงรายการของสิ่งที่คุณและเขาโปรดปรานรวมถึงแจกแจงเหตุผลทั้งหมดสำหรับคำถามที่ว่าเหตุใดความสัมพันธ์ระหว่างคุณสองคนจึงมีคุณค่า 

            จับเข่าคุย : การพูดคุยกันตลอดจนความเข้าอกเจ้าใจกันเป็นสิ่งสำคัญ ฟิลลิป ฮอดสัน ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ของ the British Association for Counselling and Psychotherapy กล่าว "ใส่ใจกันในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น จำได้ว่าเขามีนัดประชุมสำคัญในวันรุ่งขึ้น หรือการที่สามารถระบายความในใจให้กันฟังได้ รวมถึงเข้าใจความรู้สึกของอีกฝ่าย" ถ้าอย่างนั้นคุณสองคนทำไมไม่นั่งลงจิบน้ำชาหรือดื่มไวน์คุยกันในช่วงหัวค่ำดูละ 

            บอกรักกันได้ไม่จำกัด : อย่าเก็บคำพูด "ฉันรักคุณ" ไว้ใช้เฉพาะในวันวาเลนไทน์ จงบอกรักกันเป็นประจำไม่จำกัดเวลา 

            ปรนนิบัติด้วยความเต็มใจ : ของขวัญไม่ใช่แค่สิ่งที่มอบให้กันในวันเกิด แต่เป็นสิ่งที่มอบให้กันได้ทุกๆ วัน และเป็นอะไรที่มีความหมายความเขา เช่น ทำอาหารที่เขาชอบ ซื้อไวน์ที่เขาโปรดปราน หรือทำการ์ดใบเล็ก ๆ ที่คุณคิดว่าเขาเห็นแล้วต้องชอบ กฎเพียงข้อเดียวที่ต้องยึดถือคือ การเอกอกเอาใจ 

           แสวงหาจุดร่วม : "ความรักจะไปไม่รอดหากไม่แสวงหาจุดร่วมที่เหมือนกัน" ฟิลลิปบอก "หากคุณสองคนแตกต่างกันสิ้นเชิง คุณควรรีบหาจุดร่วมที่เหมือนกันโดยด่วน ซึ่งอาจเป็นอะไรก็ได้เช่น เต้นซัลซ่า ตกปลา หรือร้องเพลง กิจกรรมใดก็ได้ที่สนใจเหมือนกันทั้งคู่" 

            กายสัมผัส : ไม่ถึง 10% ของคู่รักที่สื่อสารกันผ่านการพูดคุย นั่นเป็นเหตุผลว่าเหตุใดการจูงมือหรือกอดจูบกันจึงเป็นสิ่งสำคัญ ในการสำรวจเรื่องเซ็กส์ของ Health Plus พบว่า 88% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่าสิ่งที่พวกเธอต้องการจากคนรักคือ "ความรัก" "ความเสน่หา" และ "การโอบกอด" ขณะที่พวกเขาก็ต้องการสิ่งเหล่านี้เช่นเดียวกัน ดังนั้นจงอย่าอายที่จะเป็นฝ่ายเริ่มทำสิ่งเหล่านี้ก่อน

            อย่าผัดผ่อน : อย่าเพิกเฉยกับเรื่องโรแมนติก พอลล่าบอก "ให้ลงมือทำแม้จะมีข้อจำกัด อย่ามองว่านี่เป็นเรื่องไร้สาระ คุณกับสามีอาจพาลูก ๆ ไปปิกนิกสุดโรแมนติกกัน อย่าลืมพกแก้วเนื้อดีไปด้วย 2 ใบ" การโอบกอด คุยกระหนุงกระหนิงกันไม่ว่าจะเป็นเรื่องชื่อสัตว์เลี้ยง หรือมุขตลกที่รู้กันเฉพาะแค่คุณสองคนจะช่วยกระชับความสัมพันธ์รักให้แนบแน่น จำไว้ความโรแมนติกไม่ได้ขีดวงอยู่แค่การแสดงท่วงท่าความรักหรือการให้ของขวัญราคาแพง

            ทุ่มเทเวลา : สุดยอดความโรแมนติกที่คุณมอบให้กับคนรักได้คือการทุ่มเทเวลาให้กับเขามากกว่าคนอื่น ๆ มีความสุขที่ได้อยู่กับเขา ใช้เวลาว่างทำกิจกรรมร่วมกันเช่น ไปเดินเล่นในสวนสาธารณะสักครึ่งชั่วโมง พูดคุยหยอกล้อกัน ซึ่งจะทำให้คุณสองคนเห็นถึงคุณค่าของการใช้เวลาสร้างความสุขร่วมกัน 

          หากคนรักยังเพิกเฉยกับเรื่องโรแมนติก

                    ลองวิธีทั้ง 5 นี้ดูสิ ถ้าอยากให้หวานใจของคุณกลายร่างเป็นโรมิโอ 

           ทำให้เห็น : "ลงมือให้เห็นเป็นตัวอย่าง" เดนิสบอก "จัดโต๊ะ ปรุงอาหารอร่อย ๆ จุดเทียน แล้วโทรศัพท์หาเขาบอกว่าคุณกำลังตั้งตารอพบเขา ถ้าเขายังมองวัตถุประสงค์ของคุณไม่ออก คุณต้องเผยความรู้สึกรักใคร่ที่มีต่อเขาบอกเขาว่า "ฉันชอบที่คุณจูบและกอดฉัน" จูเลียนนะ "ค่อย ๆ พูดเข้าสู่ประเด็นว่านี่คือสิ่งที่คุณต้องการอย่างยิ่ง และหวังว่าเขาจะเข้าใจสาวที่คุณส่งออกไป" 

            ชวนกันออกเดท : ทำตัวให้ว่างสักสัปดาห์ เดทแรกให้เป็นหน้าที่ของเขา ส่วนนัดเดทครั้งต่อไปเป็นหน้าที่ของคุณ เดนิสบอก 

            หยุดต่อว่า : "ตัวอย่างเช่น ผู้หญิงมักบ่นว่าสามีตัวเองที่ไม่ยอมจูงมือพวกเธอ เวลาที่พวกเธอเห็นสามีภรรยาคู่อื่นจูงมือกัน" จูเลียบอก "การต่อว่าและเอาแต่ย้ำว่า "คุณไม่ฉันรักแล้ว" จะยิ่งก่อให้เกิดผลตรงกันข้ามกับที่คุณต้องการ ดังนั้นครั้งต่อไปที่คุณสองคนเดินจูงมือกัน ให้พูดว่า "รู้ไหมฉันมีความสุขจัง" เพรี่จะทำให้เขาเห็นว่ามีรางวัลที่เกิดจากการกระทำสิ่งนี้" 

            ทำตัวเองให้ดูดี : พยายามทำตัวเองให้ดูดี ไม่ใช่ทุกครั้งที่เขาเห็นคุณ คุณก็อยู่แต่ในชุดเสื้อวอร์มหรือกางเกงผ้ายืด 

            จงเป็นอิสระ : "กำหนดความโรแมนติกให้เป็นวาระสำคัญ บอกเขาว่า "ฉันคิดถึงคุณค่ะ" และถ้าเขาตอบว่า "ตอนนี้ผมไม่ว่าง" ให้คุณออกไปเที่ยวกับเพื่อนแทน" ฟิลลิปบอก "ทำให้เขารู้สึกว่าคุณไม่ต้องง้อเขาก็ได้ขณะที่คุณกำลังส่งสารถึงเขาว่าคุณต้องการเขา"

          ผลสำรวจเมื่อเร็ว ๆ นี้เผยให้เห็นว่า ผู้อ่าน Health Plus จำนวนมากมีเซ็กส์ที่เป็นสุข แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังอยากเห็นหวานใจของตัวเองทำอะไรที่โรแมนติกให้พวกเธอ แต่ถ้ามัวรอให้เขาเป็นฝ่ายเริ่มต้นคงจะยากเห็นทีคุณเองนั่นแหละที่ต้องเป็นฝ่ายลงมือก่อน           ผู้ชายที่เคยจีบหญิงโดยการให้ดอกไม้และของหวาน เช่น ช็อกโกแลต ตอนนี้คงกำลังมองหาอะไรแปลกใหม่มาเซอร์ไพรส์ พวกเธอแทนของเชย ๆ เหล่านี้         

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

หนังสือHealth plus No.44 ตุลาคม 2552