ขนาดมีข้อมูลไปส่วนหนึ่งแล้ว พอถึงเวลาจริงๆ เหมือนมีมนต์สะกดยังไงไม่รู้ค่ะ อันนั้นก็อยากมี อันนี้ก็อยากได้ ต้องคอยเตือนสติ+สตางค์ของเราทั้งคู่ตลอดเวลานะคะ ไม่เช่นนั้น สตางค์อาจจะหมดโดยไม่รู้ตัวค่ะ ^-^
ทำความเข้าใจกับสไตล์การถ่ายภาพแต่งงาน
การถ่ายภาพแต่งงานแบ่งตาม package โดยทั่วไปจะแบ่งเป็นการถ่ายแบบ Indoor และ Outdoorสตูดิโอส่วนมากจะเริ่มจากการถ่าย Indoor(การถ่ายในสถานที่)ในลักษณะนี้จะแบ่งเป็น สไตล์การแต่งตัว อีกสองแบบใหญ่ๆ คือ
การแต่งตัวด้วยชุดแต่งงานเต็มรูปแบบ เช่น เจ้าสาวสวมชุดวิวาห์เจ้าบ่าวใส่สูทหรือใส่ชุดแต่งงานประจำชาติในแบบต่างๆการถ่ายแบบนี้จะทำในห้อง ใช้ฉากม้วนเป็นฉากหลัง มีการจัดไฟถ่ายภาพ
อีกลักษณะเป็นการแต่งตัวโดยใช้เสื้อผ้าแบบสบายๆ ที่ไม่ใช่ชุดแต่งงาน และถ่ายภายในสตูดิโอภาพที่ได้จะมีลักษณะดูเป็นธรรมชาติ (ขึ้นอยู่กับการ Action ของบ่าวสาวด้วย)
สำหรับการถ่าย Outdoor (ถ่ายนอกสถานที่) ก็เช่นเดียวกัน คือ มีการแต่งตัวในสองสไตล์ เหมือน Indoor แต่การถ่าย Outdoor จะทำให้ได้บรรยากาศฉากหลังที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น นิยมถ่ายบริเวณสวนสาธารณะ และชายทะเล หรือในโรงแรมที่มีสถานที่สวยๆ
สตูดิโอโดยทั่วไปจะเริ่ม package Indoor และจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม สำหรับการถ่ายแบบ Outdoor
ภาพออกมาสวย หรือ ไม่สวยเพราะเหตุใด ?
องค์ประกอบสำคัญที่จะทำให้ภาพถ่ายบุคคลออกมาสวย ประกอบไปด้วย
-
การแต่งหน้าและทำผม
-
ชุดที่สวมใส่ รองเท้า
-
การจัดองค์ประกอบภาพ
-
การโพสต์ท่าของบ่าวสาว
-
อุปกรณ์การถ่ายภาพ
สตูดิโอที่ดีจะสามารถควบคุมองค์ประกอบข้างต้นได้เป็นอย่างดีค่ะ
ก่อนที่จะตัดสินใจจอง Package ขอให้นึกถึงองค์ประกอบด้านบนเป็นหลัก ซึ่งสิ่งที่จะชี้วัดได้คือผลงานอันแท้จริงของสตูดิโอนั้นๆ
"จะได้เห็นผลงานอันแท้จริงได้ ต่อเมื่อได้คุยกับ ลูกค้าหมาดๆ ของสตูดิโอนั้นๆ" รูปจากการเตรียมการ นำมาโชว์ในงานออกบูธต่างๆนั้น ส่วนมากถูกจัดทำเป็นพิเศษ หรือ เลือกจากลูกค้าที่ถ่ายออกมาสวยเป็นพิเศษ ซึ่ง Sale มักจะนำมาเป็นตัวอย่างเสมอ
ก่อนการตัดสินใจจองแพคเกจถ่ายภาพ! หลายๆ คู่มักจะจองเป็นแพคเกจข้อดีของการ จองแบบเหมารวม Package คือ ได้ครบทุกอย่าง ในราคาที่ถูกแต่จริงๆแล้ว มีข้อพึงระวัง ด้านล่างค่ะ
-
สตูดิโอถ่ายภาพ จะมีความชำนาญ เฉพาะการถ่ายภาพ เป็นหลัก สิ่งต่างๆ ที่คิดราคารวมมากับแพคเกจ โดยมากมักจะได้จาก ผู้ผลิต /ผู้บริการอื่นๆ ซึ่งบ่อยครั้งไม่มีคุณภาพเท่าที่ควร ด้วยการกดราคาผู้ผลิตอื่นๆ และบวกเพิ่มขายลูกค้า (เฉพาะบางสตูดิโอเท่านั้น)
คำแนะนำ :หากไม่แน่ใจจริงๆ ให้เลือกแพคเกจที่มีเฉพาะการถ่ายภาพ โดยต่อรองของแถมต่างๆ ให้เปลี่ยนเป็นภาพถ่ายหรืออัลบั้ม(ควรกระทำก่อนวางเงินมัดจำ และเขียนเป็นลายลักษณ์อักษร)
-
ราคาในแพคเกจ เป็นราคาเหมารวมทำให้ไม่เห็นราคาจริงๆ ในแต่ละสินค้าหรือบริการ การปรับเปลี่ยนจะต่อรองได้ยาก (โดยเฉพาะเมื่อมัดจำไปแล้ว การปรับแพคเกจ มักจะทำให้ ลูกค้าเสียเปรียบเสมอ)
คำแนะนำ :ควรวางแผน และตั้งงบประมาณสำหรับการถ่ายภาพไว้ล่วงหน้าการวางแผนทำได้โดยการประเมินคร่าวๆ ว่าต้องการภาพ และอัลบั้ม ลักษณะใดบ้างเริ่มจาก
ภาพตั้งหน้างาน : เริ่มที่ภาพขนาด 16 x 20 นิ้ว ถ้าชอบใหญ่ขึ้น ก็จะเป็นขนาด 20 x 24 นิ้วหรือ ขนาด 24 x 30นิ้วพร้อมกรอบ(ควรถาม Sale ไว้ล่วงหน้าว่า ถ้าต้องการภาพเพิ่ม + กรอบ นอกเหนือจากใน แพคเกจ จะเสียค่าใช้จ่ายเท่าไหร่)
อัลบั้มภาพ : ภาพถ่ายสตูดิโอโดยส่วนใหญ่ (ร้อยละ 95)จะใช้ฟิล์มขนาด 120mm แตกต่างจากกล้อง ขนาด 35mm ทั่วๆไปฟิล์มที่ได้เมื่อนำมาอัดเป็นภาพจะได้ภาพขนาด 4x5 นิ้ว (จะเล็กกว่าภาพขนาดจัมโบ้ 4x6 ประมาณ 1 นิ้ว ด้านยาว)ซึ่งสตูดิโอควรจะจัดเป็น อัลบั้มขนาด 4x5 นิ้วให้ด้วยและให้สอบถาม Sale กรณีซื้ออัลบั้มเพิ่มจะคิดเท่าไหร่คู่บ่าวสาว ส่วนมากเลือกซื้อภาพเพิ่มเกินแพคเกจ และไม่ได้ต่อรองราคาอัลบั้มไว้ก่อนทางสตูดิโอจะคิดค่าอัลบั้มแพงเกินจริงไปมาก
-
สตูดิโอจะมีรายได้เพิ่ม (เยอะมาก) หลังการถ่ายภาพด้วยการให้ Saleขายภาพ + ฟิล์ม เพิ่มเกินกว่าใน packageที่จองไว้ โดยราคาที่ขายมักจะสูงเกินจริงมาก(ยกเว้น สตูดิโอระบบ digitalจะไม่มีฟิล์มให้ค่ะ)
คำแนะนำ :จะต้องคุยกับ Sale ก่อนมัดจำในครั้งแรก ถึงกรณีการเลือกภาพ + ฟิล์มเพิ่ม เกินกว่าแพคเกจ ทางร้านจะคิดเพิ่มเท่าไหร่ รวมทั้งบันทึกลงในใบจอง
! เชื่อหรือไม่ !หากไม่ตกลงไว้ตั้งแต่ต้นบางสตูดิโอขายภาพเพิ่มภาพละถึง 800 - 1000 บาท ในขณะที่ต้นทุนของฟิล์มและภาพ ไม่ถึง 30 บาท(ผู้เขียนแนะนำราคาภาพและฟิล์ม ส่วนที่อยู่นอกเหนือ package ควรอยู่ที่ 200 - 400 บาท ต่อภาพ ไม่ควรเกินกว่านี้)
ดูรายล ะเอียดในใบจอง ให้ชัดเจนว่า ภาพที่ได้ในแพคเกจจะได้รับฟิล์มด้วยบางสตูดิโอไม่ยอมให้ฟิล์มซึ่งจุดนี้หากมีระบุไว้ในใบจอง ก็จะไม่เกิดปัญหาภายหลัง
-
การแข่งขันที่สูงของสตูดิโอถ่ายภาพ ทำให้ Saleพยายามเชียร์ให้จองแพคเกจโดยการวางมัดจำไว้ก่อน บ่อยครั้ง Saleสตูดิโอจะพูดเกินจริงไปเสมอๆ เช่น "มีชุดให้เลือกวันงานเป็นร้อยๆ ชุดใหม่ๆทั้งหมด"หรือ"รับรองถ่ายออกมาจะต้องสวย ต้องหล่อ เหมือน ดารา"หรือ "เพิ่มสตางค์อีกนิดเดียว จะตัดชุดใหม่ให้"
คำแนะนำ :
-
ถ้าไม่ได้เห็นชุด (ในตู้สำหรับลูกค้าเลือกใส่วันงาน) ไม่ควรจองแพคเกจแบบเหมารวม ชุดบ่าว-สาววันงานโดยเด็ดขาด!(แม้ว่าแถมฟรีก็ตาม)หลายคู่ต้องเสียเงินแถมเจ็บใจ เพราะจุดนี้มาแล้ว และยังจะเป็นเรื่องชวนทะเลาะกันภายหลัง
-
ถ้าไม่ได้เห็นผลงาน ภาพนิ่ง , VDOไม่ควรจองแพคเกจแบบเหมารวมภาพนิ่ง VDO วันงานโดยเด็ดขาด!(แม้ว่าแถมฟรีก็ตาม)ทีมงานถ่ายภาพสตูดิโอมักจะเป็นคนละชุดกับทีมถ่ายภาพนิ่งวันงานซึ่งสตูดิโอมักจะสั่งช่างภาพนิ่งข้างนอก ซึ่งควบคุมคุณภาพได้ยาก
พึงระลึกเสมอว่า งานถ่ายภาพ เป็นงานศิลปะ การที่จะได้ผลงานออกมาสวยงาม
จะต้องทำด้วยผู้ที่มีประสบการณ์ ควรชมผลงานของท่านนั้นๆ ก่อนนะคะ
ขอบคุณข้อมูลดีดีจาก : http://dolphin7.exteen.com/20061114/entry-3
www.weddingsquare.com