เปิดตัวว่าที่เจ้าบ่าว!แฉเรื่องเซ็กซ์หมออ้อย-มิกกี้
เปิดตัว! ''มิกกี้'' พิธีกรหนุ่มว่าที่เจ้าบ่าวของ ''หมออ้อย'' ชมฝ่ายหญิงน่ารัก ไม่แคร์เคยแต่งงานมีสามีมาก่อน
วันที่ 27 พ.ค. 2553

                                      

            ''มิกกี้-ณัฐพงศ์'' ว่าที่เจ้าบ่าวของ ''หมออ้อย-จุฑารัตน์'' ไม่สนดาราสาวสุดเซ็กซี่เคยแต่งงานมาก่อน รับ 5 เดือนก็เพียงพอแล้วที่จะศึกษากันจนตัดสินใจแต่งงาน เพราะทั้งคู่คิดเสมอว่าไม่เคยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีใส่ เป็นในสิ่งที่ตัวเองเป็นดีกว่า

    นาทีนี้ต้องยอมรับว่าข่าวคราวของดาราสาว ''เจนี่'' จุฑารัตน์ เทียมสุวรรณ หรือ ''หมออ้อย'' สาวรสแซบที่เพิ่งเปิดศึกซดเกาเหลาชามใหญ่กับรุ่นพี่ร่วมวงการอย่าง ''เจ๊จิ๊ก'' เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์ แล้ว การแต่งงานครั้งใหม่กับ ''มิกกี้'' ณัฐพงศ์ ชอบชื่น พิธีกรคู่หูในรายการ ''ไนท์ วาไรตี้'' ทางช่องเอช พลัส ชาแนล ยังเป็นที่จับตามองอีกด้วย  โดยเมื่อวันที่ 25 พ.ค. 53 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อขอสัมภาษณ์ว่าที่เจ้าบ่าวของสาวเซ็กซี่ ซึ่งพิธีกรหนุ่มก็ได้ให้สัมภาษณ์ในทุกประเด็นเป็นอย่างดี ถ้าใครอยากรู้ลึกถึงเรื่องราวความรักของสาวเซ็กซี่สุดซี้ดกับหนุ่มคนนี้แล้ว ละก็ ไปตามติดฟังหนุ่มคนนี้เขาเม้าท์ได้เลย

    ''มิกกี้'' ณัฐพงศ์ ชอบชื่น เป็นใครแล้วทำอะไรอยู่บ้าง

    มิกกี้ : ตอนนี้ก็เป็นพิธีกรประจำอยู่รายการ ''ไนท์ วาไรตี้'' ทางช่องเอช พลัส ชาแนล ออกอากาศสดเวลา 21.00-24.00 น. แล้วก็มีธุรกิจส่วนตัวอยู่ด้วย เป็นธุรกิจอู่ซ่อมสีรถยนต์ครับ ชื่อ ''เอแอนด์ ดับบลิว การาจ''

                                      


    เริ่มเข้าวงการได้อย่างไร

    มิกกี้ : ผมเป็นดีเจเปิดเพลงกลางคืนมาก่อนครับ แล้วก็เริ่มที่จะเข้ามาทำงานกลางวันเป็นพิธีกรตามงานอีเวนต์ จากนั้นก็เป็นพิธีกรตามรายการมาเรื่อยๆ ทั้งรายการ ''ชิคแชแนล'' ทางยูบีซี 66, ''ชิคสตอรี่'' ทางช่อง 9 จนได้เข้ามาทำพิธีกรรายการ ''ไนท์ วาไรตี้'' ร่วมกับ ''อ้อย-จุฑารัตน์'' ทางช่องเอช พลัส ชาแนล ตอนแรกกับรายการ ''ไนท์ วาไรตี้''  ที่จริงเพื่อนเป็นคนทำอยู่รายการนี้ แล้วพอดีบางครั้งเขาไม่ว่าง เขาก็จะโทร.ให้เราช่วยมาแทนหน่อย บ่อยครั้งเข้าก็เลยได้มาเป็นพิธีกรประจำรายการเลย

    เจอกับ ''หมออ้อย'' ครั้งแรกรู้สึกอย่างไรบ้าง

    มิกกี้ : ไม่รู้สึกยังไงเลยครับ และไม่ได้มองว่าเขาเป็นคนเซ็กซี่ด้วย ก็ดูว่าเขาน่ารัก ขาวโบ๊ะแค่นั้นเอง เพราะก่อนหน้าที่จะรู้จักกันเป็นคนไม่ชอบเสพข่าวในวงการบันเทิงอยู่แล้ว แต่พอรู้จักกันก็เริ่มรับรู้ข่าวเขาเยอะมากขึ้น หลังจากนั้นก็เริ่มรู้สึกดีกับเขามากขึ้นเพราะได้รู้จักตัวตนของเขาว่าไม่ เหมือนอย่างที่ในข่าวที่เป็นเลย

    ใช้เวลาคบหากันในฐานะแฟนมานานเท่าไหร่

    มิกกี้ : ที่จริงก็รู้จักกันมาเป็นปี แต่เริ่มคบกันประมาณ 5 เดือนครับ


                                       

    เพราะอะไรเวลาเพียง 5 เดือนถึงตัดสินใจแต่งงานกัน

    มิกกี้ : ที่จริงเวลา 5 เดือน, 3 เดือน หรือแค่ 2 เดือน ตอนนี้ผมคิดว่าเราสองคนมีความคิดเห็นที่ตรงกัน เราเข้าใจซึ่งกันและกัน ความเข้าใจไม่ใช่เรื่องของความอดทนนะครับ แล้วต่างคนต่างมีความพร้อม เราก็พร้อมที่จะเริ่มต้นชีวิตครอบครัวด้วยกันแล้ว มันก็เลยกลายเป็นจุดที่เราตรงกัน ในขณะที่หลายคนอาจจะเข้าใจว่าช่วงนี้เป็นช่วงหอมหวานหรือเปล่า แต่จะบอกว่าเรารู้จักกันในขณะที่เรารู้ตัวตนซึ่งกันและกัน เพราะเราไม่ได้วาดสิ่งที่ดีให้กันตั้งแต่ทีแรก เพราะเราเจอกันในฐานะของคนรู้จักกันก่อน ก่อนที่เราจะมาพัฒนาความสัมพันธ์เป็นแฟนกัน ซึ่งแต่ละคนรับในจุดบอดของแต่ละคนได้

    กับครอบครัวของเรารู้สึกยังไงต่อว่าที่เจ้าสาวคนนี้บ้าง

    มิกกี้ : ทางครอบครัวก็ชอบนิสัยของเขา เพราะเขาเป็นคนไม่ประจบเอาใจ เลียแข้งเลียขา ซึ่งเข้ากันได้ดี ไม่ว่าจะไปกินข้าว พูดคุย พอดียิ่งตอนคุณยายเสีย เขาก็ไปอยู่บ้านผมที่ต่างจังหวัด สิงห์บุรี ประมาณ 3-4 วัน เขาก็ไปนอนอยู่ที่บ้าน ซึ่งเป็นบ้านตามชนบทเป็นใต้ถุนบ้านยกสูง เป็นบ้านไม้ เขาก็นอนอยู่ได้อย่างมีความสุข ซึ่งทุกคนก็เห็นว่าจากภาพลักษณ์เขาจะเป็นไฮโซ เรื่องมาก แต่เขาก็สามารถอยู่แบบง่ายๆ ได้

    กับตัวเราเองเคยแต่งงานมาก่อนไหม

    มิกกี้ : ไม่มีแน่นอน

    เป็นที่ทราบกันว่าสาว ''หมออ้อย'' เคยแต่งงานมาแล้ว กับตัวเรารู้สึกอย่างไรบ้าง

    มิกกี้ : คือถ้าผมรับไม่ได้ ผมคงไม่ขอเขาแต่งงาน เรื่องที่ผ่านมามันเป็นเรื่องปกติของชีวิต ตอนนั้นเราไม่ได้เจอกัน บางคนคบกันเป็นแฟนไม่ได้แต่งงานก็มีเยอะแยะ มันเป็นเรื่องของอดีตที่ผ่านมา ถ้าถามว่าตัวคุณเองก่อนหน้านี้คุณก็เคยมีแฟนมาตั้งเยอะแยะ มันขึ้นอยู่กับว่าเรามีความพอดีที่ลงตัวกัน ถ้ามัวมานั่งคิดแต่แบบนั้น ชีวิตของคนไทย 60 ล้านกว่าคน ทุกคนจะไม่ได้แต่งงานหรือมีครอบครัวอย่างมีความสุขแน่นอน

    แล้วครอบครัวล่ะ

    มิกกี้ : คือจากที่ผมฟังสื่อ อยากจะให้ผมรังเกียจมากกว่า เรื่องนี้มันไม่ใช่ประเด็นที่ผมคิด แล้วถ้าครอบครัวผมคิดนี่...ผมไม่เคยถามแม่ผมเลยว่า ก่อนมีพ่อ แม่มีแฟนมากี่คน ก่อนพ่อจะได้กับแม่ จะแต่งงานกับแม่ เขามีแฟนมากี่คน มันเป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่คนที่มีความคิด

    แพลนชีวิตในอนาคตไว้อย่างไรบ้าง

    มิกกี้ : ทุกวันนี้ผมมีธุรกิจเล็กๆ เป็นของตัวเอง ผมรับงานพิธีกร ผมมีบ้าน มีรถ มีครอบครัวที่มีความสุข ผมสามารถใช้ชีวิตของผมอย่างนี้ต่อไปได้เรื่อยๆ เพียงแต่ผมมีผู้หญิงหนึ่งคนที่ผมต้องดูแลเพิ่มเข้ามา

    คาดว่าจะมีลูกด้วยกันสักกี่คน

    มิกกี้ : อยากมี 1 คนก่อน เพราะไม่เคยมีลูก ไม่ทราบว่าเลี้ยงลำบากหรือเปล่า ลองมีก่อนคนนึง ถ้ามีแล้วชิวเดี๋ยวต่อเลย

    เห็นบอกว่าเร็วๆ นี้จะไปขอลูกกับเจ้าแม่กวนอิมที่ฮ่องกง

    มิกกี้ : นี่บอกขอพรอย่างนี้เสียหายนะ เดี๋ยวเขาจะหาว่าผมไม่มีน้ำยา ทริปนี้เราไปกัน 3 คน มีผม มีเขา และเพื่อนของเขาอีกคนนึงที่แต่งงานมานานมากแล้วแต่ยังไม่มีลูก ก็เลยชวนเราสองคนไปด้วย เป็นหนึ่งทริปของการเที่ยว เป็นหนึ่งกิจกรรมของการเที่ยว แค่นั้นเอง ก็คิดว่าไหนๆ เพื่อนไปแล้ว ก็เลยต้องไปขอด้วย มันไม่เสียหายอะไร แต่ไม่ใช่จุดสำคัญในการไปเที่ยวครั้งนี้

    แต่งงานแล้วจะให้ ''เจนี่'' ออกจากวงการไปเป็นแม่บ้านเต็มตัวไหม

    มิกกี้ : อันนี้บังคับเขาไม่ได้หรอกครับ เพราะว่าเขามีธุรกิจของเขา เขามีงานของเขา แล้วธุรกิจเขาก็เป็นธุรกิจที่เขารัก งานก็เป็นงานที่เขารัก ถ้าเขาไม่รักเขาก็คงไม่มาทำ เพราะเขาเองก็มีกินของเขาอยู่แล้ว ถ้าไปห้ามไม่ให้เขาทำก็คงไม่ได้ถ้าเขาอยากทำอะไร ถ้าสมมุติว่าแต่งงานกันแล้วตอนมีลูกอาจต้องขอร้องเขาให้เขาพักงานบ้าง เพื่อมีเวลาพักผ่อนให้มากขึ้น

    จากนั้นผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง ''หมออ้อย'' ถึงกระแสหลังจากที่มีข่าวการวิวาห์รอบ 2 ออกไป ซึ่งเจ้าตัวกล่าวด้วยน้ำเสียงใสสุดๆ ว่า

     ''ดีค่ะ มีคนยินดีด้วยเยอะมากเลย เพื่อนๆ ทุกคนมีให้กำลังใจ อย่าไปสนใจกระทู้ในอินเทอร์เน็ต เพราะคนที่เขียนเขาไม่ได้รู้จักมิกกี้ ไม่ได้รู้จักเรา เราอยู่กันแค่ 2 คนไม่ต้องไปแคร์ใครเลยค่ะ อย่าให้ปัจจัยอื่นมันมาทำลายเรา  อ้อยสั่งมิกกี้เลยว่าอย่าไปเปิดกระทู้ดูเลย อ่านข่าวได้ แต่พอจะถึงตรงกระทู้ปุ๊บ ห้ามอ่าน ตอนแรกเขาอยากรู้ว่าอ่านแล้วจะเป็นยังไง  ทำไมหมออ้อยถึงเคยอ่านแล้วมานั่งร้องไห้ เขาต้องมาปลอบใจ พอเขาอ่านไปได้แค่ไม่กี่วันเท่าน้นแหละค่ะ ก็เลิกอ่านเลย เราเลยบอกว่าต่อไปนี้ห้ามเปิดกระทู้ดูอีก ถ้าอ่านเมื่อไหร่ขอให้เธอเป็นหมัน (หัวเราะ)''

      อย่างไรก็ตาม ในฐานะที่หมออ้อยและว่าที่เจ้าบ่าวเป็นพิธีกรคู่กันในรายการเกี่ยวกับการตอบ ปัญหาเรื่องความรัก และมีเรื่องเซ็กซ์เข้ามาเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ อีกทั้งทั้งสองยังมีแพลนว่าจะปั่มปั๊มมีลูกกันเลยในทันทีหลังจากวิวาห์อีก ด้วย ผู้สื่อข่าวจึงไม่พลาดที่จะเจาะลึกไปที่เรื่องของ ''เซ็กซ์'' ว่าทั้งสองมีทัศนคติในเรื่องดังกล่าวเข้ากันได้ ตรงกันหรือเปล่า เรื่องนี้หมออ้อยกล่าวอย่างอารมณ์ดี หัวเราะร่วนเหมือนดังถูกใจว่า เรื่องเซ็กซ์ของเธอและว่าที่เจ้าบ่าวนั้นตรงกันแบบสุดๆ

      ''อืม เราก็อยากได้ผู้ชายมานอนด้วย เขาก็อยากได้ผู้หญิงมานอนด้วย ก็ถือว่าตรงกันนะ เพราะถ้าเขาอยากได้ผู้ชายมานอนด้วยคงไม่ใช่แล้วล่ะ   ก็ตรงกัน ถ้าไม่ตรงกันก็คงคบกันไม่ได้ และเราก็ไม่ได้ชอบพวกซาดิสต์ ถ้าแบบต้องมี โซ่ แส้ กุญแจมือ คงจะไม่ไหว (หัวเราะ) เราไม่ได้มีรสนิยมแบบนั้น เซ็กซ์ในทัศนะของเราก็แบบมาตรฐานทั่วไป ของคนรักกัน มีความสุข  เขาเป็นโรแมนติก เราก็เป็นคนโรแมนติก'' หมออ้อยกล่าว




ขอขอบคุณ

รายงานโดย : หงส์หยก


จำนวนคนอ่าน 41232 คน
 
ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้องกัน